ยอดเขามัจฉะปูชเรย์ เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในศาสนาฮินดู ในฐานะบ้านของพระศิวะ
ในสามทศวรรษที่ผ่านมา ตั้งแต่ข่าวลือที่ เดนซ์ ได้พิชิตขอดเขา มัจฉะปูชเรย์ หลังจากนั้นภูเขาแห่งนี้ ยังคงอยู่อย่างโดดเดี่ยวและเก่าแก่ เป็นศูนย์รวมของสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติอย่างแท้จริง ต่างจากภูเขาลูกอื่น ๆ ที่กลายเป็นที่ครอบคลุมของมนุษย์มากขึ้น ความเจริญต่างๆ ที่เข้ามาทำร้ายความเป็นธรรมชาติ การเป็นภูเขาต้องห้าม หมายถึง มัจฉะปูชะเรย์ จะยังคงอยู่เป็นหนึ่งในสถานที่สุดท้ายบนโลกอย่างแท้จริง ที่ไกลเกินเอื้อมต่อการทำลายของมนุษย์เรา
ในโลกใบนี้ยังมีที่ไหนอีกหรือ ที่มนุษย์ ยังไปไม่ถึง แม้แต่นอกโลกอย่าง ดวงจันทร์ ดาวอังคาร มนุษย์ อย่างเรายังไปมาแล้ว ภูเขาและยอดเขาต่างๆในโลกนี้ ก็เช่นกัน ล้วนถูกจับจองและทำลายสถิติ การปีนและการเหยียบย่างขึ้นไปของมนุษย์ แล้วทั้งสิ้น
แต่ยังมีภูเขาแห่งหนึ่ง ที่เชื่อกันว่ายังไม่มีมนุษย์ผู้ได ปีนป่ายขึ้นไป นั่นคือ ภูเขา “มัจฉะปูชเรย์” (Machapuchare) หรือรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งคือ ยอดเขาหางปลา ตั้งอยู่ในเขตเทือกเขา อันนาปุรณะ เมืองโพครา ซึ่งเป็นเมืองรองของประเทศเนปาล ที่พิกัด GPS: 28 ° 29'N 83 ° 56'E ยอดเขาแห่งนี้ตั้งตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าสีครามสดใส ที่ความสูงประมาณ 6,993 เมตร ต่ำกว่ายอดเขาส่วนใหญ่ที่ล้อมรอบอยู่มาก แต่ก็มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นกว่า ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองจากมุมไหนมันจะปรากฏเป็นจุดสุดยอดที่สูงชัน คล้ายกับแมทเทอร์ฮอร์นรุ่นใหญ่กว่า หรือเหมือนรูปสี่เหลี่ยมคาง หรือบางมุมมองก็เหมือนรูปหัวใจ หรือเหมือนหางปลาที่ยกขึ้น เราสามารถมองเห็นยอดเขาหางปลา ตั้งตระหง่านได้ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่เขตเมืองโพครา
ในเขตพื้นที่ของภูเขาแห่งนี้ นับเป็นพื้นที่ ที่มีผู้คนเหยียบย่างเข้าไปน้อยที่สุดก็ว่าได้ เมื่อเทียบกับภูเขาลูกอื่นๆ ในประเทศเนปาล ฉายาภูเขาต้องห้ามชื่อนี้ได้แต่ใดมา ทำไมถึงต้องห้าม? เรื่องราวทุกอย่างทุกที่ ล้วนมีความเป็นมา ชาวฮินดูในประเทศเนปาลเชื่อกันว่า ภูเขาลูกนี้ ยอดเขาแห่งนี้ เป็นบ้านของพระศิวะ (Shiva) ซึ่งเป็นที่ประทับแยกโดดเดี่ยวอยู่บนท้องฟ้า เขตภูเขาแห่งนี้จึงไม่อนุญาต ให้เยียบย่างหรือปีนป่าย และเนื่องจากเป็นภูเขาที่ไม่เคยมีใครปีนขึ้นไป ทำให้ความสูงของมันไม่มีตัวตนนั่นเอง
ในปี ค.ศ. 1950 นักปีนเขาชาวอังกฤษได้พยายามปีนเขาลูกนี้ ด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ และให้เกียรติแก่ชาวเนปาลเขาตัดสินใจที่จะไม่ปีนต่อไป ก่อนถึงจุดสูงสุดของยอดเขาแค่ 500 ฟุต จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ได้มีการทำข้อตกลงกับกษัตริย์ ของประเทศเนปาลว่าจะไม่ทำการเหยียบย่างเข้ามา เพื่อพิชิตยอดเขาแห่งนี้อีก
จริงหรือไม่ที่ยังไม่มีใครแตะต้องภูเขาลูกนี้ ด้วยความบริสุทธิ์ ผุดผ่อง ที่ยังไม่มีใครย่างกราย เข้ามา ย่อมเป็นที่สนใจของนักปีนเขาหลายๆท่าน เป็นแน่แท้ ดังข่าวลือที่ว่า นาย บิล เดนซ (Bill Denz) นักปีนเขาชาวสวิตเซอร์แลนด์ ได้กล้าหารชาญชัย บุกเดี่ยวปีนเขาลูกนี้เป็นผลสำเร็จในต้นศตวรรษ 1980 และเชื่อกันว่าเป็นบุคคล คนเดียวที่ได้ย่างเท้าเหยียบยอดเขา มัจฉะปูชเรย์ แห่งนี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการทำผิดกฎหมายการปีนเขาด้วยเช่นกัน และในปี 1983 เขาได้เสียชีวิต จากหิมะถล่มในเขตเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งเรื่องราวการพิชิตยอดเขา มัจฉะปูชเรย์ ยังไม่มีการยืนยันแน่นอน และเป็นปริศนาไปกับความตายของ นายบิล เดนซ์
มัจฉะปูชเรย์ ไม่เหมือนยอดเขาลูกอื่นๆ ที่เรารู้จัก ที่ค่อยๆไต่ไปตามระดับความสูง แต่ภูเขาลูกนี้ จะมีความชัน แคบ และลื่นเป็นอย่างมาก เมื่อเรามองจากทะเลสาบ เฟวา ในเมืองโพครา ดังที่เห็นในรูปโพสการ์ด ทั่วไป ยอดเขาแห่งนี้มีความสูงประมาณ 6993 เมตร ซึ่งคนเนปาลขนานนามว่า “ภูเขาหางปลา” (Fishtail) เนื่องจากตรงยอดเป็นรอยหยักเหมือนหางปลา เวลายกขึ้นมาจากน้ำ
วันนี้ ภูเขา มัจฉะปูชะเรย์ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ อันนาปุรณะ ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 1992 เป็นเขตอนุรักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในเนปาล ในเขตพื้นที่แห่งนี้ มีแม่น้ำ กาลี กานดากี (Kali Gandaki river) ที่ลึกที่สุดในโลก เป็นบ้านของนกถึง 474 ชนิด สัตว์เลื้อยคลาน 39 ชนิด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ 22 ชนิด และ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมากกว่าร้อยชนิด รวมไปถึงพืชดอก ที่แตกต่างกัน ถึง 1,226 ชนิด และป่าไม้ ต้นกุหลาบพันปี (Rhododendron) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก
แม้ว่าเราจะไม่สามารถปีน มัจฉะปูชเรย์ แต่เราสามารถเดินทางไปยัง มัจฉะปูชเรย์ เบสแคมป์ได้ (Machapuchare Base Camp) ที่ความสูง 3700 เมตร ในเส้นทางอันนาปุรณะ เบสแคมป์ (Annapurna Base Camp)หรือเดินป่าไปในเส้นทาง มารดิหิมาล เทรก (Mardi Himal Trek) จะเห็นยอดเขาหางปลาได้ชัดมากยิ่งขึ้น เหมือนเอื้อมมือจับต้องได้ เราสามารถพักค้างคืนและสำรวจสถานที่ศักดิ์สิทธิ์โดยรอบซึ่งถูกล้อมรอบด้วยยอดเขาสูงตระหง่านของ ยอดเขาอันนาปุรณะใต้ ยอดเขา ฮิลชูริ หรือยอดเขาอันอันาปุรณะ I ที่สูงเป็นอันดับ 10 ของโลกด้วยเช่นกัน
Comments